ปัจจุบันการขอสินเชื่อส่วนบุคคลมีทั้งแบบไม่มีหลักประกันและแบบมีหลักประกันขึ้นอยู่กับประเภทสินเชื่อและวัตถุประสงค์ในการขอกู้

หากสินเชื่อประเภทนั้นๆ ไม่จำเป็นต้องใช้หลักประกัน ก็สามารถใช้เอกสารส่วนบุคคลที่รัฐบาลออกให้เป็นเอกสารขอสินเชื่อส่วนบุคคลได้ทันที ได้แก่

  1. สำเนาบัตรประชาชน
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน
  3. สำเนาทะเบียนสมรสหรือทะเบียนหย่า
  4. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากหน้าแรก

หากเป็นผู้มีรายได้ประจำจะต้องเพิ่มเติมเอกสารเป็นหนังสือรับรองเงินเดือนหรือสลิปเงินเดือนล่าสุดไม่เกิน 2 เดือน และ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน

แต่ถ้าหากมีสินทรัพย์ที่สามารถนำมาค้ำประกันได้ ก็จะทำให้ได้วงเงินมากขึ้นและได้ดอกเบี้ยที่ถูกลง โดยสามารถใช้สินทรัพย์ของตนเองที่ปลอดภาระหนี้หรือภาระผูกพันมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ ซึ่งเอกสารขอสินเชื่อส่วนบุคคลที่ใช้ค้ำประกันได้มีหลากหลายประเภท ดังนี้

ค้ำประกันด้วยรถยนต์

รถยนต์เป็นอีกสินทรัพย์หนึ่งที่นิยมนำมาใช้ค้ำประกัน เนื่องจากอนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็ว ทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง และได้รับเงินกู้ในหลังวันโอนเล่มหรือวันอนุมัติเพียง 1 วัน แล้วแต่กรณี เหมาะกับผู้ขอสินเชื่อที่มีรถยนต์ส่วนบุคคลเป็นชื่อของตนเองและได้ผ่อนจนหมดแล้ว

นอกจากนี้ ผู้ขอสินเชื่อยังสามารถครอบครองและสามารถใช้รถของตนเองได้ตามปกติ เพียงแต่เอกสารขอสินเชื่อส่วนบุคคลจะเป็นการนำเล่มทะเบียนรถมาขอสินเชื่อที่ธนาคารหรือสถาบันการเงิน ซึ่งอายุสูงสุดของรถยนต์ที่รับเป็นหลักประกันจะอยู่ที่ประมาณ 15-17 ปี โดยสามารถใช้วิธีแบบโอนเล่มหรือแบบโอนลอยก็ได้ หากใช้วิธีโอนเล่ม จะได้วงเงินสินเชื่อประมาณ 80% –120% ของราคาประเมิน และสามารถผ่อนชำระได้ประมาณ 72–84 งวด แต่หากใช้วิธีโอนลอย ผู้ขอสินเชื่อจะต้องมีคนค้ำประกันให้และลงนามล่วงหน้าไว้ในเอกสารการโอน วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ที่มีประวัติการชำระหนี้ดี โดยจะได้วงเงินประมาณ 70%–80% ของราคาประเมินและให้เวลาผ่อนประมาณ 60 งวด ซึ่งวงเงินจะน้อยกว่าแบบโอนเล่ม แต่ก็ช่วยลดความเสี่ยงจากการโอนเล่มรถยนต์ไปได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ขอสินเชื่อ

ค้ำประกันด้วยที่อยู่อาศัย

การใช้ที่อยู่อาศัยมาเป็นหลักค้ำประกันในการขอสินเชื่อเพื่อนำเงินไปใช้ประโยชน์ในทางอื่น เหมาะสำหรับผู้ขอสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นชื่อของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นบ้านพร้อมที่ดิน ทาวเฮ้าส์ ตึกแถว คอนโดมิเนียม ฯลฯ และจะต้องไม่ติดภาระจำนอง โดยผู้ขอสินเชื่อยังสามารถพักอาศัยที่อยู่ของตนเองได้ตามปกติ เพียงแต่ใช้เอกสารที่อยู่อาศัยนั้นเป็นหลักประกัน มีระยะผ่อนยาวนานสูงสุดถึง 30 ปี

ค้ำประกันด้วยบัญชีเงินฝาก

เหมาะกับผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อและไม่มีหลักประกันประเภทอื่น หรือมีแต่ไม่อยากนำมาใช้จำนำหรือจำนอง สามารถใช้เอกสารขอสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นบัญชีเงินฝากโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันมาวางเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อก็ได้ ซึ่งเงินในบัญชีนั้นจะไม่สามารถถอนออกมาใช้ได้ เว้นแต่ดอกเบี้ยเงินฝากที่สามารถโอนออกมาใช้จ่ายได้แล้วแต่ธนาคารกำหนด ซึ่งการใช้บัญชีเงินฝากเป็นหลักค้ำประกันจะมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าการใช้สินทรัพย์อื่นๆ ส่วนวงเงินและระยะเวลาการผ่อนจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อและเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร

ค้ำประกันด้วยเงินบำเหน็จ

การใช้เอกสารขอสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นเงินบำเหน็จหรือบำเหน็จตกทอดมาเป็นหลักค้ำประกันในการขอสินเชื่อ โดยจะใช้หนังสือรับรองสิทธิบำเหน็จตกทอดที่ออกโดยกรมบัญชีกลางมาเป็นหลักในการค้ำประกัน ซึ่งผู้ขอสินเชื่อมีอายุเกิน 60 ปีได้ และสามารถผ่อนได้นานสูงสุดประมาณ 30 ปี

นอกจากนี้ ผู้ขอสินเชื่อจะต้องมีกรรมสิทธิในทรัพย์สินนั้นอยู่ก่อนนำมายื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร ซึ่งไม่จำเป็นต้องระบุวัตถุประสงค์การในการกู้ก็ได้ โดยการค้ำประกันและหลักประกันเป็นปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินใช้ประกอบกับเอกสารขอสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อพิจารณากำหนดวงเงินของสินทรัพย์ที่จะนำมาค้ำประกันตามมูลค่าตลาด ณ เวลานั้นๆ รวมถึงความสามารถและระยะเวลาในการผ่อนชำระ ส่วนใหญ่กำหนดเพดานสูงสุดอยู่ที่ 5 เท่าของเงินเดือนและเงื่อนไขต่างๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารจะเป็นผู้กำหนด

อย่างไรก็ตาม สินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักประกัน ก็เป็นแหล่งเงินทุนฉุกเฉินที่มีสภาพคล่องสูง สะดวกรวดเร็ว และอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ หากมีความจำเป็นต้องใช้เงินและประสงค์ขอสินเชื่อส่วนบุคคล สามารถวางแผน เตรียมเอกสารขอสินเชื่อส่วนบุคคลกับโบรกเกอร์ทางการเงินที่น่าเชื่อถืออย่าง Rabbit Care เพื่อเพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อด้วยวงเงินสูงถึง 2 ล้านบาท มีบริการแนะนำสินเชื่อที่มีโอกาสได้รับอนุมัติสูงสุด สามารถเปรียบเทียบสินเชื่อส่วนบุคคล วางแผนการเงินให้ชีวิตง่ายขึ้น ได้ที่ https://rabbitcare.com/personal-loan